ฟุตเทจห้วยขาแข้ง/Footage Huai Kha Khaeng Wildlife Sanctuary
- Description (คำอธิบาย):ดินแดนแห่งความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติที่มอบเป็นรางวัลแก่คนไทยและคนทั้งโลก อีกทั้งเป็นพื้นที่ทรงคุณค่าต่อสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ทั้งคนและสัตว์ป่าที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ให้เป็นมรดกแห่งแผ่นดินตลอดไป ได้รับการจดทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก (UNESCO) ในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกของยูเนสโก หนึ่งในผืนป่ามรดกโลกที่คนไทยภาคภูมิใจ เพราะนี่คือรางวัลอันยิ่งใหญ่จากธรรมชาติที่มอบให้ทุกชีวิตได้อย่างเท่าเทียม ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของสภาพป่าที่เต็มไปด้วยความหลากหลายทางธรรมชาติ โดยประกอบด้วยป่าถึง 5 ใน 7 ชนิด ที่พบในเขตร้อนชื้น ได้แก่ ป่าดิบแล้ง ป่าดิบเขา ป่าทุ่งหญ้า ป่าเบญจพรรณ ป่าเต็งรัง ก่อให้เกิดความหลากหลายของ พันธุ์พืชและพันธุ์สัตว์ต่าง ๆ บางชนิดเป็นสัตว์ที่หายากใกล้จะสูญพันธุ์ เช่น ควายป่า เลียงผา เสือดาว หมาใน ไก่ป่า นกยูงไทย และยังมีแมลงต่าง ๆ อีกมากมาย อย่างไรก็ตาม เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ไม่ใช่แหล่งท่องเที่ยวทั่วไปที่เปิดให้เข้าชม เนื่องจากจัดเป็นเขตอนุรักษ์ ที่มีความเปราะบาง การเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามามากมายอาจส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศในพื้นที่ได้ ดังนั้นจึงมีการกำหนดจุดผ่อนปรนให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าไปศึกษาและชมธรรมชาติได้ ดังนี้ บริเวณสำนักงานเขตรักษาพันธุ์ฯ อำเภอลานสัก ซึ่งมีกิจกรรมเดินป่าตามรอยเส้นทางของเสือ แวะคารวะอนุสรณสถาน "สืบ นาคะเสถียร" ผู้ยอมสละชีพเพื่อรักษาผืนป่าแห่งนี้เอาไว้ จนกลายเป็นตำนานแห่งห้วยขาแข้ง โดยอนุสรณสถานแห่งนี้เป็นรูปปั้นของสืบ นาคะเสถียร ที่หันหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ เพื่อดูความเป็นไปของผืนป่าตะวันตก และมีบันได 8 ขั้น เพื่อสื่อความหมายว่าเขาได้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ นาน 8 เดือน ก่อนตัดสินใจจบชีวิตตัวเองในบ้านพักส่วนตัว บริเวณหน่วยพิทักษ์ป่าไซเบอร์ อำเภอห้วยคต โดยมีกิจกรรมตั้งแคมป์ริมน้ำตกไซเบอร์ บริเวณหน่วยพิทักษ์ป่าห้วยแม่ดี อำเภอบ้านไร่ โดยมีกิจกรรมตั้งแคมป์ตามโครงการห้องรับรองแขกห้วยขาแข้ง และมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติไว้รองรับ ที่พักและสิ่งอำนวยความสะดวก เนื่องจากไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยวทั่วไป ดังนั้นการเดินทางไปศึกษาธรรมชาติในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง จึงต้องติดต่อขออนุญาตเสียก่อน สำหรับคนที่ต้องการเข้าไปศึกษาอย่างจริงจัง สามารถยื่นเรื่องได้ที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ตู้ ปณ. 4 อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี 61160 โดยต้องติดต่อยื่นรายละเอียดล่วงหน้าอย่างน้อย 30 วัน สำหรับสถานที่พักแรมนั้น บริเวณที่ทำการเขตฯ มีบ้านพักรองรับได้ 10-30 คน จำนวน 3 หลัง รวมทั้งอาคารฝึกอบรมรองรับได้ 80 คน การเดินทาง : สามารถเดินทางสู่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งได้ 2 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางเข้าสู่ที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง อยู่ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 90 กิโลเมตร โดยไปตามทางสายอุทัยธานี-หนองฉาง-ลานสัก ทางหลวงหมายเลข 3438 ถึงหลักกิโลเมตรที่ 53-54 เลี้ยวซ้ายเข้าไปประมาณ 15 กิโลเมตร จะถึงที่ทำการเขตด่านตรวจเขาหินแดงซึ่งตั้งอยู่ริมห้วยทับเสลา และจากที่ทำการเขตฯ สามารถเดินทางด้วยรถยนต์ต่อไปยังสถานีวิจัยเขานางรำ ระยะทาง 17 กิโลเมตร และหน่วยพิทักษ์ป่ากะปุกกะเปียง ระยะทาง 14 กิโลเมตร เส้นทางเข้าสู่หน่วยพิทักษ์ป่าเขาบันได อยู่ทางทิศใต้ของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ห่างจากตัวจังหวัดอุทัยธานีประมาณ 110 กิโลเมตร ไปตามทางสายอุทัยธานี-หนองฉาง-บ้านไร่ ระยะทางประมาณ 80 กิโลเมตร แล้วแยกเข้าทางลูกรังผ่านบ้านใหม่คลองอังวะอีกประมาณ 30 กิโลเมตร ถึงด่านตรวจคลองระยาง ไปยังหน่วยพิทักษ์ป่าห้วยแม่ดี และหน่วยพิทักษ์ป่าเขาบันได
The land with abunbant natural resources which is a gift for Thai citizens and the rest of the world. It is also an important area for humans and wildlife. Listed as world heritage by UNESCO. Thung Yai Naresuan-Huai Kha Khaeng Wildlife Sanctuary has only grown in fame since it was registered as a World Heritage Site by UNESCO in December 1991. Huai Kha Khaeng covers 5,775 square kilometers, engulfing six Amphoes in three provinces. It also comprises of Thung Yai Naresuan Wildlife Sanctuary, making it the largest connected conserved forest in Thailand and the South East Asia Region. Huai Kha Khaeng was pronounced a World Heritage Site due to its five types of tropical forests extant within its borders, blessed with biodiversity. Some of the fauna are nearly extinct, including wild water buffalo, serow, leopard, Asiatic wild dog, red junglefowl cock, green peafowl and many species of forest insects. Normally, the wildlife sanctuary does not open for tourists because it is a conserved, high-sensitive area. Travelers are permitted to visit only three points of interest: headquarters of Huai Kha Khaeng Wildlife Sanctuary (where the Sueb Nakhasathian Memorial celebrates an important figure in the sanctuary's history); Saiboe Ranger Station (where Saiboe Waterfall is located); and Huai Mae Di Ranger Station (where there are campgrounds and a nature study route.) To get there, enter at the headquarters of Huai Kha Khaeng Wildlife Sanctuary, approximately 102 kilometers from the provincial city along Highway No. 333 (Uthai Thani-Nong Chang). Then take Highway 3438 from Nong Chang-Lan Sak. After turning left at Km. 53-54 and driving along for about 15 kilometers, you will arrive at the office of Khao Hin Daeng Checkpoint, located on the Huai Thap Salao creek side. From the sanctuary office, drive for 14 kilometers to the Kapuk Kapiang Ranger Station or 17 kilometers to the Khao Nang Ram Research Station. Alternatively, enter at the Khao Bandai Ranger Station, which is in the south of Huai Kha Khaeng, approximately 137 kilometers from the provincial city, along Highway 333, the Uthai Thani-Nong Chang route. Then, turn into Highway 3282, Nong Chang-Ban Rai route, taking about 80 kilometers. Turn left onto a laterite road, passing Ban Mai Khlong Aangwa for 30 kilometers until reaching the Khlong Rayang Border. Go along to Huai Maedi and the Khao Bandai Ranger Station. To stay overnight, contact the Wildlife Sanctuary Management Subdivision in person at least 20 days in advance at the Wildlife Conservation Office, Department of National Park, Wildlife and Flora. Operating hours are 6.00 am-6.00 pm. For further information, please contact Tel. 0 2561 4292-3 ext. 765 or Huai Kha Khaeng Wildlife Sanctuary, P.O. Box 7, Amphoe Lan Sak, Uthai Thani 61160 or Tel. 0 5651 9654.
-
MP4
-
-
File ID :
1359599